ยาแก้โรคกระษัย

ขนานที่ ๑

ท่านให้เอา เถารางแดง กับ ต้นโด่ไม่รู้ล้ม ตัวยาทั้ง ๒ อย่างนี้เอาอย่างละเท่าๆ กัน นำมาล้างน้ำให้สะอาด ตากแดดให้แห้ง คั่วไฟให้เหลือง ใช้ชงกับน้ำร้อน รับประทานต่างน้ำชา มีสรรพคุณแก้โรคกระษัย แก้อาการขัดเบา(ถ่ายปัสสาวะไม่สะดวก) ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ

พระครูสุวรรณวิริยคุณ วัดทุ่งคอก อ.สองพี่น้อง สุพรรณบุรี

ขนานที่๒

ท่านให้เอา ต้นกะเม็งทั้งห้า (เอาทั้งต้นตลอดถึงราก) นำมาล้างน้ำให้สะอาด ตำให้แหลก คั้นเอาเฉพาะน้ำ กรองด้วยผ้าขาวบาง ผสมกับน้ำร้อนประมาณครึ่งแก้ว และผสมกับ น้ำผึ้งแท้ ๑ ใน ๓ ส่วนของน้ำร้อน ใช้น้ำยารับประทาน ในวันพระสิ้นเดือน มีสรรพคุณแก้โรคกระษัย เป็นยาขับน้ำปัสสาวะเป็นยาอายุวัฒนะ เคยใช้รักษาได้ผลดีอย่างชะงัดแล ฯ

พระครูวินิตชัยคุณ วัดไชโยวรวิหาร อ่างทอง

ขนานที่ ๓

ท่านให้เอา หัวข่า ๑ แก่นขี้เหล็ก ๑ ใบมะกา ๑ ยาดำ ๑ ตัวยาทั้ง ๔ อย่างนี้เอาหนักอย่างละเท่า ๆ กัน นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควรใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา เวลาก่อนอาหารเช้า – เย็น วันละ ๒ เวลา มีสรรพคุณแก้โรคกระษัยได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ

วิทยาทานสงวนนาม

ขนานที่ ๔

ท่านให้เอา ใบระกา ๑ กำมือ, ฝักคูน (ฝักราชพฤกษ์) ๓ ฝัก ยาดำ หนัก ๑ บาท, แก่นขี้เหล็ก หนัก ๑ บาท, เมล็ดพันธุ์ผักกาด หนัก ๑ บาท ขมิ้นอ้อย ๗ แว่น, ตัวยาทั้ง ๖ อย่างนี้ นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำ ๓ ส่วน ต้มเคี่ยวให้เหลือน้ำ ๑ ส่วน ใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา มีสรรพคุณแก้โรคกระษัยได้ผลดีอย่างชะงัดแล ฯ

วิทยาทานสงวนนาม

ขนานที่ ๕

ท่านให้เอา ผลมะตูมอ่อน ๑ ว่านน้ำ ๑ ยาดำ ๑ รากบัวหลวง ๑ หัวแห้วหมู ๑ ใบมะกา ๑ ฝักราชพฤกษ์ ๑ ตัวยาทั้ง ๗ อย่างนี้เอาหนักอย่างละ ๑ บาทเท่ากัน ก้านสะเดา ๓๓ ก้าน นำตัวยาทั้ง ๘ อย่างนี้มาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ใช้น้ำยารับประทาน มีสรรพคุณแก้โรคกระษัยได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ

พระอธิการนาค ขนติญาโณ วัดห้วยเจริญผล อ.บ้านโป่ง ราชบุรี

ขนานที่ ๖

ท่านให้เอา หัวเถาคัน ๑ เถาวัลย์เปรียง ๑ ข้าวสาร ๑ เกลือทะเลตัวผู้ (ที่เม็ดยาว ๆ ) ๑ ตัวยาทั้ง ๔ นี้เอาอย่างละเท่าๆ กัน นำมาตากแดดให้แห้ง บดเป็นผง ผสมกับ น้ำผึ้งแท้ ใช้รับประทานเวลาเช้า – เย็น มีสรรพคุณแก้โรคกระษัยได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล ฯ

พระอธิการวรกิจ ธมมธโช วัดราษฎร์บำรุง อ.หันคา ชัยนาท

ขนานที่ ๗

ท่านให้เอา งวงตาล ๑ เถาวัลย์เปรียง ๑ แกแล ๑ ชุมเห็ด ๑ แก่นแสนสาร ๑ ใบมะกา ๑ แก่นขี้เหล็ก ๑ ฝาง ๑ แก่นลั่นทม ๑ ฝักคูน ๑ ยาดำ ๑ ดีเกลือ ๑ ตัวยาทั้ง ๑๒ อย่างนี้เอาหนักอย่างละเท่า ๆ กัน นำมาใส่หม้อดินต้มกับนำพอสมควร ใช้น้ำยารับประทานเวลาเช้า – เย็น มีสรรพคุณแก้โรคกระษัย ทุกชนิด ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ

พระอธิการคำผาย ธมมธีโร วัดหนองรี อ.หนองแค สระบุรี

ขนานที่ ๘

ท่านให้เอา รากแจง ๑ รางแดง ๑ หัวกระชาย ๑ หัวแห้วหมู ๑ ตะโกนา ๑ มะคำไก่๑ สมอไทย ๑ เปลือกทิ้งถ่อน ๑ ดีเกลือ ๑ ตัวยาทั้ง ๙ อย่างนี้เอาหนักอย่างละ ๒ บาทเท่ากัน นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควรใช้น้ำยารับประทาน มีสรรพคุณแก้โรคกระษัยเหน็บชา ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ

พระครูปลัดธรรมานุวัตร วัดหนองเกสร อ.วัดเพลง ราชบุรี

ขนานที่ ๙

ท่านให้เอา หัวข่า ๕ ส่วน, ข้าวกล้องข้าวเหนียวดำ ๒ ส่วน, พริกไทยร่อน ๑ ส่วน, นำหัวข่ามาหั่นเป็นท่อน ๆ ตำพอแหลก ตากแดดให้แห้ง นำเอาข้าวกล้องข้าวเหนียวดำมาคั่วไฟให้สุก นำตัวยาทั้ง ๓ อย่างนี้มาตำเป็นผง ผสมกับน้ำผึ้งแท้ หรือ ผสมกับ น้ำร้อน ก็ได้ ปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเท่าเมล็ดพุทรา ใช้รับประทานกับ สุรา หรือ น้ำร้อน ก็ได้ เวลาก่อนนอนทุกวัน มีสรรพคุณแก้โรคกระษัยกล่อน แก้ปวดท้อง บำรุงกำลัง ทำให้เลือดลมเดินสะดวก เคยใช้รักษาได้ผลดีมาแล้ว ฯ

พระครูธรรมกิจวรคุณ วัดบางเตย เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร,

ขนานที่ ๑๐

ท่านให้เอา ขิง ๑ ข่า ๑ ไพล ๑ ใบมะกา ๑ พริกไทยร่อน ๑ หัวยาข้าวเย็นเหนือ ๑ หัวยาข้าวเย็นใต้ ๑ ดีเกลือ ๑ ฝักคูณ ๑ หัวแห้วหมู ๑ ยาดำ ๑ ตัวยาทั้ง ๑๑ อย่างนี้เอาหนักอย่างละ ๑ บาทเท่ากัน (ถ้าเป็นโรคมาก ให้เอาหนักอย่างละ ๔ บาทเท่ากัน) นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควรต้มเคี่ยวให้น้ำงวดลงพอสมควร ก่อนใส่ตัวยาลงหม้อ ให้ลงก้นหม้อด้วยพระเจ้า ๕ พระองค์ (คือ นะ โม พุท ธา ยะ ) ใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา เวลาก่อนอาหาร วันละ ๓ เวลา มีสรรพคุณแก้โรคกระษัยลงฝัก ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล ฯ

พระอธิการวิโรจน์ เขมโก วัดท่าดินแดง อ.ผักไห่ อยุธยา

ขนานที่ ๑๑

ท่านให้เอา แก่นขี้เหล็ก ๑ เง่าสับปะรด ๑ ใบมะกา ๑ เถาคัน ๑ เถาวัลย์เปรียง ๑ หัวข่า ๑ ตัวยาทั้ง ๖ อย่างนี้เอาอย่างละเท่าๆ กัน นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ใส่เกลือทะเล ๑ กำมือ ใช้น้ำยารับประทาน ถ้าต้องการให้ถ่ายมากๆ ให้ใส่เกลือผสมน้ำยาก่อนรับประทาน) มีสรรพคุณแก้โรคกระษัยได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล ฯ

พระครูทองอยู่ อายุวฑฒโก วัดหัวสำโรง อ.ท่าวุ้ง ลพบุรี

ขนานที่ ๑๒

ท่านให้เอา รากต้นขี้การแดง ๑ ลูกคัดเค้า ๑ เถาวัลย์เปรียง ๑ เถาคันแดง ๑ รากต้นเสาไห้ ๑ ตัวยาทั้ง ๕ อย่างนี้เอาอย่างละเท่า ๆ กัน นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ใช้น้ำยารับประทาน มีสรรพคุณแก้โรคกระษัยซึ่งมีอาการภายในท้องเป็นก้อนดานแข็ง ให้หายไปอย่างชะงัดนักแล ฯ

พระครูปิยศักดิ์ ทีฆายุโก อ.เมือง พิษณุโลก

ขนานที่ ๑๓

ท่านให้เอา แก่นขี้เหล็ก ๑ เถาวัลย์เปรียง ๑ ข่าสด ๑ ใบมะกา ๑ ตัวยาทั้ง ๔ อย่างนี้เอาหนักอย่างละ ๕ ตำลึกเท่ากัน นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ใช้น้ำยารับประทาน (ถ้าธาตุหนัก คือท้องผูก ให้แทรกดีเกลือพอสมควร) มีสรรพคุณแก้โรคกระษัย ซึ่งมีอาการเส้นท้องดึง ปวดหลัก มีเหงื่อออกตามมือและเท้า ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ

พระครูใบฎีกาบุญเยี่ยม วัดท่ากระท้อน ตราด

ขนานที่ ๑๔

ท่านให้เอา ต้นหญ้าคาทั้งห้า (เอาทั้งต้นตลอดถึงราก) มากพอสมควร นำมาล้างน้ำให้สะอาด ใส่หม้อดินต้มกับน้ำมากพอสมควร ใช้น้ำยาผสมกับ น้ำตาลทรายขาว (พอสมควร) รับประทานครั้งละ ๑ แก้วกาแฟ วันละ ๓ เวลา หลังอาหาร มีสรรพคุณแก้โรคกระษัย ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล ฯ

พระอธิการปั่น สิริธมโม วัดโคกเจริญ อ.โคกสำโรง ลพบุรี

ขนานที่ ๑๕

ท่านให้เอา รากต้นเหงือกปลาหมอ ๑ รากต้นมะพร้าว ๑ รากต้นหมาก ๑ ตัวยาทั้ง ๓ อย่างนี้เอาอย่างละ ๑ กำมือเท่ากัน นำมาล้างน้ำให้สะอาดใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา เวลาเข้า – กลางวัน – เย็น วันละ ๓ เวลา โรคกระษัยจะหายไปภายใน ๗ วัน มีสรรพคุณชะงัดนักแล ฯ

พระบุญเลิศ จนฺทสโร วัดบ้านลาด อ.หนองแค สระบุรี

ขนานที่ ๑๖

ท่านให้เอา หัวแห้วหมู ๑ ผักเป็ดแดง ๑ ใบมะคำไก่ ๑ เถาวัลย์เปรียง ๑ ตัวยาทั้ง ๔ อย่างนี้เอาหนักอย่างละ ๑ บาทเท่ากัน ใบชุมเห็ดเทศ ๑๕ ใบ ตัวยาทั้ง ๕ อย่างนี้ นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา เวลาเช้า – เย็น มีสรรพคุณแก้โรคกระษัย ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล ฯ

พระครูบรรพตประชาวสัย วัดหนองหญ้าปล้อง เพชรบุรี

ขนานที่ ๑๗

ท่านให้เอา ยำดำ หนัก ๕ บาท, ดีปลี หนัก ๖ บาท, มหาหิงคุ์ หนัก ๓ บาท, ขิงแห้ง หนัก ๓ บาท, พริกไทยร่อน หนัก ๓ บาท, การบูร หนัก ๕ สลึง, กานพลู หนัก ๕ สลึง, ลูกกระวาน หนัก ๒ สลึง, ตัวยาทั้ง ๘ อย่างนี้ นำมาตำเป็นผง ผสมกับ น้ำผึ้งแท้ ปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเท่าเมล็ดพุทรา ใช้รับประทานครั้งละ ๑ เม็ด เวลาก่อนนอน มีสรรพคุณแก้โรคลมกระษัย มือเท้าเย็น จุกเสียดท้อง ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ

เจ้าอธิการ มานพ ธมมสาโร วัดคลองระมาน อ. ค่ายบางระจัน สิงห์บุรี

ขนานที่ ๑๘

ท่านให้เอา งวงตาลตัวผู้ ๑ เง้าสับประรด ๑ รากมะละกอ ๑ รากไม้รวก ๑ ตัวยาทั้ง ๔ อย่างนี้เอาอย่างละเท่า ๆ กัน สารส้ม (พอประมาณ) ๑ ตัวยาทั้ง ๕ อย่างนี้นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา วันละ ๓ เวลา มีสรรพคุณแก้โรคกระษัยกร่อน มีอาการขัดเบา เบา ขุ่นข้น ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล ฯ

พระสมุห์บุญเหลือ เตชวโร วัดทุ่งท่าช้าง กิ่ง อ.สระโบสถ์ ลพบุรี

ขนานที่ ๑๙

ท่านให้เอา หัวกระเทียม ๑ พริกไทยร่อน๑ เกลือทะเล (เกลือใส่แกง) ๑ การบูร ๑ ตัวยาทั้ง ๔ อย่างนี้นำมาใส่ผลมะกรูด ๔ ลูก ให้เต็มอย่างลูก โดยคว้านเอาเนื้อมะกรูดออกให้หมดเสียก่อน เหลือไว้เฉพาะเปลือก นำผลมะกรูด ๔ ลูกนั้นมาตำให้ละเอียด เป็นยาสด ปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเท่าเมล็ดพุทรา ใช้รับประทานเวลาเช้า – เย็น และก่อนนอน วันละ ๓ เวลา มีสรรพคุณแก้โรคกระษัยชนิดที่เป็นก้อนแข็งเป็นดานอยู่ในท้อง ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล ฯ

พระใบฎีกาบุญส่ง อตตทีโป วัดลักษณาราม อ.บ้านแหลม เพชรบุรี
Scroll to top