1. ชันนะตุ
เกิดจากติดเชื้อรา หนังหัวเป็นตุ่มแผลพุพอง มีน้ำเหลืองไหล
ขนานที่ 1
สระผมเด็กทุกวันตอนเช้าด้วยสบู่ แล้วเอาน้ำมันมะพร้าวทาตรงชันนะตุทุกวัน เช้า-เย็น น้ำมันจะละลาย ชันนะตุจนหลุดออก
ขนานที่ 2
ใช้หัวขมิ้นชันตำผสมน้ำมะนาวทาทุกวันๆละ 2-3 ครั้ง
ขนานที่ 3
เอาขมิ้นขันขนาดเท่า 2 ข้อนิ้วกลาง 1 ชิ้น เนื้อมะพร้าวแก่ขนาดเท่านิ้วชี้ 2 ชิ้น ใบมะลิ 1 กำมือ ยาทั้งหมดตำรวมกันให้ละเอียด เอาน้ำยาที่ได้แต้มหัวชันนะตุวันละ 2-3 ครั้ง จะทำให้แผลตกสะเก็ดเร็ว ใช้สบู่สระผมเด็กทุกวันตอนเช้าด้วย
2. คราบชันนะตุเป็นแผ่นติดอยู่กลางกระหม่อม
เด็กเล็กๆ ที่หัวเป็นชันนะตุตรงกลางกระหม่อน แล้วน้ำเหลืองจากชันนะตุนั้นแห้งกรังติดเป็นแผ่นอยู่กลางกระหม่อน ทำให้รักษายาก เพราะแผ่นแห้งนี้กันยาไว้ จะแกะออกก็ยากเพราะติดหนังหัวเด็ก เวลาแกะ จะเจ็บมาก วิธีเอาแผ่นนี้ออกคือสระผมเด็กด้วยสบู่เสียก่อน ฟอกนานๆ แล้วเอามันหมูแข็งทาตรงแผ่น แห้งนั้นให้ทั่ว ทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง แผ่นแห้งนั้นจะเปียกชุ่มน้ำมันหลุดออกมาได้ แล้วรักษาแผลที่หัวด้วยยารักษาแผลทั่วไป อีกวิธีหนึ่งคือ ขูดมะพร้าวแล้วตำกับหัวขมิ้นชัน ทาที่คราบชันนะตุทำให้แผลหลุดได้เช่นกัน
3. นอนไม่หลับ
โรคนอนไม่หลับนี้ควรจะพึ่งยาให้น้อยที่สุด หรือไม่ควรใช้เลย เพราะเป็นการฝืนธรรมชาติ และจะทำร้ายตัวเองในทีหลัง การออกกำลังกายและฝึกหัดใจให้สงบ อย่าคิดมากจะช่วยให้นอนหลับได้
ขนานที่ 1
ใช้ดอกบัวที่ใกล้บาน 5 ดอก ใส่น้ำให้ท่วมยา ต้มให้เดือนนาน 5-10 นาที แล้วใส่น้ำตาลกรวดพอหวานกินครั้งละ 1 แก้ว วันละ 3-4 ครั้ง
ขนานที่ 2
ใช้ยอดอ่อนของใบขี้เหล็กหรือดอกขี้เหล็กอ่อน 1 กำมือ ต้องใช้สดๆ เก็บแล้วต้องรีบทำยาเลยโดยเอา เหล้าขาว 40 ดีกรีใส่ลงไปพอท่วมยา ตั้งทิ้งไว้ 7 วัน กินก่อนนอนครั้งละ 1-2 ช้อนชา (ยานี้ไม่มีอันตราย)
4. ปวดท้ายทอย
แก้โดยวิธีนวดถ้าใครปวดศีรษะทางด้านหลังแถวท้ายทอย ถ้าปล่อยไว้ให้ปวดมากถึงกระตุก กินยาไม่บรรเทา ถ้าปวดข้างซ้ายหรือข้างขาวก็ให้ตัวเองงอเข่าข้างที่ท้ายทอยปวด แล้วใช้นิ้วหัวแม่มือกดลงตรงสันหน้าแข้งตั้งแต่ ใต้เข่าลงไปถึงหน้าแข้ง บีบคลำอยู่สัก 4-5 นาที โรคจะเบาโดยลำดับและหายไปโดยไม่รู้สึก
5. ปวดหัว
มักเกิดจากการคิดมาก ขาดการออกกำลัง การอดนอน
ขนานที่ 1
เอาใบมะยมแก่ทั้งก้านและใบ 1 กำมือ ต้มกับน้ำตาลกรวดกินต่างน้ำ
ขนานที่ 2
ให้ชงชาแก่ๆ อุ่นๆ บีบน้ำมะนาวครึ่งลูกลงไปแล้วดื่ม อยู่นิ่งสัก 5 นาที
ขนานที่ 3
เอากาฝากมะม่วงทั้งต้น ต้มกินต่างน้ำ
ขนานที่ 4
เอาว่านหางจระเข้มาฝานเป็นแผ่นบางๆ เอาปูนแดงทาบางๆ ปะที่ขมับ หมั่นเปลี่ยนเมื่อรู้สึกร้อน
ขนานที่ 5
เอามะนาวมาฝานเป็นแว่นบางๆ เอาปูนแดงทาบางๆ แปะที่ขมับ หมั่นเปลี่ยนเมื่อรู้สึกร้อน
6. ปวดหัวจากความดันโลหิตสูง
ขนานที่ 1
เอาขึ้นฉ่ายสดทั้งต้น 1 กำมือ ตำคั้นเอาน้ำกิน (ให้ทำกินได้เพียงครั้งเดียว ห้ามทำกินซ้ำ เพราะจะทำ ให้ความดันลดลงมากเกินไป
ขนานที่ 2
เอาใบมะยมแก่ทั้งก้านและใบ ต้มกับน้ำตาลกรวดกินต่างน้ำ
ขนานที่ 3
ใช้กาฝากมะม่วงทั้งต้นต้มกินต่างน้ำ
7. ปวดหัวจากหวัด
เอาหัวหอมกินกับข้าวสุก โดยซอยหัวหอมในน้ำจิ้มหรือทำยำ กินครั้งละ 2-3 หัวพร้อมอาหารหรือหั่นหัวหอม 2 หัวชงกับน้ำร้อน 1 แก้ว (250 ซี.ซี.) เติมเกลือนิดหน่อยกินต่างน้ำ
8. ปวดหัวเพราะเครียด
เอาผ้าชุบน้ำร้อนวางที่หลังคอ และนวดบริเวณคอ ไหล่ และร่องสะบัก และใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นค่อยๆคลึงที่ ขมับเบาๆ และใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็คหน้าอีก
9. ปวดหัวเรื้อรัง
คนที่ปวดหัวบ่อยๆ อาจเป็นเพราะมีโรคเรื้อรังประจำตัวหรือขาดอาหาร การกินอาหารให้ถูกต้องครบส่วน และนอนหลับให้เพียงพอจะช่วยได้มาก เอาแกนขี้เหล็ก ผักเสี้ยนผี ต้นแมงลัก ตัวยาทั้ง 3 อย่างนี้เอาหนักอย่างละเท่าๆ กันต้มกับน้ำ 3 ส่วน เคี่ยวให้เหลือน้ำ 1 ส่วน กินวันละ 4-5 ครั้งๆ ละครึ่งถึงหนึ่งแก้ว
10. ปวดหัวข้างเดียว
ขนานที่ 1
กินกาแฟหรือชาแก่มากๆ 1 แก้ว ให้นอนในที่มืดและเงียบ คลายกล้ามเนื้อทุกส่วน และพยายามทำจิตใจ ให้สงบอย่าครุ่นคิดถึงปัญหาใดๆ
ขนานที่ 2
เอาใบข่อยใบตำลึง ข้าวสารอย่างละ 1 กำมือ ตำให้ละเอียดผสมน้ำพอเปียก เอาน้ำทาผมให้เปียก อยู่เสมอ ประมาณครึ่งชั่วโมงอาการปวดจะทุเลาขึ้น
ขนานที่ 3
ใช้รากบวบกลมหรือบวบเหลี่ยมสดหนัก 1 ขีด (100 กรัม) ต้มใส่น้ำเกลือกิน
11. เป็นลม
คนที่เป็นลมง่ายส่วนใหญ่เป็นเพราะไม่ได้ออกกำลังกาย อดนอน กินน้อย ต้องแก้ไขสิ่งนี้ก่อน ขณะที่เป็นลม นั้นอย่าให้กินอะไรเข้าไป เพราะจะทำให้หายใจไม่ออก ลมวิงเวียนในคนสูงอายุ
ขนานที่ 1
เอาหัวและรากกระชายแก่ๆ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตากแดดให้แห้ง บดเป็นผงใส่ขวดไว้ ชงกินกับน้ำร้อน เหมือนกินยาหอม แก้โรคลมตีขึ้น มีอาการวิงเวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลม อีกวิธีหนึ่งเอาหัวหอมและรากกระชายแก่ๆ หั่นเป็นแว่นบางๆ ตากแห้ง ชงน้ำแทนใบชา แก้ลมวิงเวียน หน้ามืด ตาลาย
ขนานที่ 2
ฝานเปลือกผลมะกรูดเป็นแผ่นบางๆ ชงน้ำเดือดใส่การบูรเล็กน้อย (ถ้าใส่มากจะขมและเผ็ดเกินไป) กินแก้ลมวิงเวียน
12. เป็นลมเพราะอยู่ในที่อับ
ควรให้คนไข้นอนหงายกับพื้นเพื่อให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้สะดวก ขยายเสื้อผ้าให้หลวม อย่าให้คนมุง แน่นจนขาดอากาศถ่ายเท แล้วตรวจดูในปากว่ามีอะไรอยู่ในลำคอหรือเปล่า บางครั้งคนแก่มักจะใส่ฟันปลอม
ขนานที่ 1
ให้ดมผิวมะกรูด เอาเล็บหยิกที่ผิวถลอกช่วยให้กลิ่นแรงขึ้น หรืออาจฝานเอาเฉพาะผิวบีบน้ำมันออกมาก็ได้
ขนานที่ 2
ฝานเอาเปลือกลูกมะนาว บีบให้มีน้ำมันออกมาให้คนป่วยสูดดม จากนั้นเอาเนื้อมะนาวจิ้มเกลือและน้ำตาล ให้คนป่วยอม ค่อยๆกลืนน้ำมะนาวลงไป จะช่วยแก้อาการวิงเวียนคลื่นไส้ได้
ขนานที่ 3
ให้ดมด้วยน้ำส้มสายชูแท้
13. เป็นลมจากอ่อนเพลีย
หัวข้าว, เมาเหล้า เอาน้ำตาลชนิดใดก็ได้หนึ่งช้อนแกง เกลือ 1/4 ช้อนชา ละลายน้ำร้อนหนึ่งแก้วกิน น้ำตาลจะช่วยเพิ่ม พลังงานและเกลือจะช่วยทดแทนเกลือที่หายไปกับเหงื่อ เมื่อฟื้นแล้วให้ดื่มน้ำมากๆ
14. เป็นลมเพราะสิ่งหวาดเสียว
เมื่อเห็นสิ่งหวาดเสียว เช่น เห็นเลือดไหลออกมากๆ มีอาการหน้ามืด ใจหวิวๆ จะเป็นลมให้เอาน้ำ ตาลทราย 1-2 ช้อนชาใส่ปากอมไว้
15. เป็นลมนานเกินไป
ถ้าหากเจอคนเป็นลมแล้วให้ดมยาอะไรก็ไม่ยอมฟื้นสักที ให้เอานิ้วหัวแม่โป้งจิกกด ดันที่ใต้จมูก แรงๆไม่ต้องกลัวคนไข้เจ็บ
16. หัวเป็นแผลเป็น ผมไม่ขึ้น
ขนานที่ 1
ให้เอาดีปลาน้ำจืดชนิดใดก็ได้มาทาบริเวณที่ผมไม่ขึ้น แต่จะต้องสระผมให้สะอาดเสียก่อนทาวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ประมาณ 7-10 วัน ผมจะเริ่มขึ้น
ขนานที่ 2
เอาหัวขิงสดๆหั่นเป็นแว่นบางๆ ทาถูบริเวณที่เป็นแผลเป็นวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ประมาณ 7-10 วัน ผมจะเริ่มขึ้น
ขนานที่ 3
ใช้ดอกอัญชันสดขยี้ทาบริเวณแผลเป็นวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น
17. หัวโน
เอาดินสอพองหรือแป้งทาตัวเด็กผสมกับน้ำมะนาวให้พอเหลว พอกตรงที่ใน ปล่อยทิ้งไว้ 6 ชั่วโมง จึงเปลี่ยน ยานี้ถ้ารีบทำใหม่ๆ จะเห็นผลชัดมาก