ชบา

ชบา

ชื่อสมุนไพร : ชบา
ชื่ออื่น ๆ
: ดอกใหม่, ใหม่แดง, ใหม่(เหนือ), ชุมบา, ชบาขาว, ชุมมา(ปัตตานี), บา, ชะมา(ใต้)
ชื่อสามัญ : Shoe Flower, Hibiscus, Chinese rose
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hibiscus rosa-sinensis Linn.
วงศ์ : MALVACEAE

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :

  • ต้นชบา เป็นพรรณไม้พุ่มขนาดย่อม อยู่ในจำพวกพู่ระหง ลำต้นนั้นมีความสูงประมาณ 6-7 ฟุต หรืออาจสูงได้ถึง 12 ฟุต เป็นพรรณไม้เนื้ออ่อน ส่วนเปลือกนั้นจะเหนียวมาก
  • ใบชบา  ใบเป็นใบเดี่ยวเป็นสีเขียว ใบโตและฐานใบกว้าง ลักษณะรูปใบมน ตรงปลายใบของมันจะแหลม ริมใบจะเป็นจักใหญ่คล้ายกับฟันเลื่อย เมื่อเราเด็ดมาขยี้จะมีเมือกเหนียว ๆ ใบมีความยาวประมาณ 6 ซม. และกว้างประมาณ 5-7 ซม.
  • ดอกชบา  ดอกจะออกเดี่ยว ๆ อยู่ระหว่างใบ และมีกลีบอยู่ 5 กลีบ ดอกนั้นจะมีอยู่หลายสีคือ สีแดง สีขาว และสีเหลือง ตรงปลายดอกจะมนและกลม
  • เกสรชบา จะมีก้านเกสรยาว และจะยื่นออกมาพ้นจากกลางดอก จะมีเกสรตัวผู้เป็นสีเหลืองเกาะอู่หนาแน่นบนท่อเกสร ส่วนเกสรตัวเมียนั้นจะอยู่ตอนปลายสุดของก้านดอก

ส่วนที่ใช้เป็นยา : ราก, ใบ, เปลือกต้น, ดอก

สรรพคุณ ชบา :

  • รากสด รสร้อนเล็กน้อย ตำพอกแก้พิษฝี ฟกบวม รับประทานขับน้ำย่อยอาหาร เจริญอาหาร
  • ใบ รักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ช่วยบำรุงผมให้ดกดำเงางาม ใช้พอกคางทูม เอามาทาตามผิวหนังจะทำให้ผิวหนังนั้นชุ่มชื้น (emollient) และเป็นยาระบาย
  • เปลือกต้น รักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา
  • ดอก ช่วยดับร้อนในร่างกาย แก้กระหาย และช่วยแก้ไข้ แก้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มีระดูขาว บำรุงประจำเดือน

[su_quote cite=”The Description”]ใบชบา ใบประมาณ 5-10 ใบ นำใบมาล้างให้สะอาด แล้วตำรวมกับใบพุดตาน จำนวนเท่า ๆ กัน ใช้พอกคางทูม วันละ 2 เวลา เช้า-เย็น หรือจะใช้ใบชบา และใบพุดตานผสมกับ น้ำผึ้งแล้วเคี่ยวให้ขึ้น ใช้ทาตามบริเวณที่เป็นคางทูมก็ได้ ในใบนั้นจะมีสารที่เป็นเมือกเช่นเดียวกับราก ถ้าเอามาทาตามผิวหนังจะทำให้ผิวหนังนั้นชุ่มชื้น (emollient) และเป็นยาระบาย[/su_quote]
[su_quote cite=”The Description”]ดอกชบา ใช้ปริมาณพอควร ชงกับน้ำ ใช้ดื่มเพื่อลดอาการไข้ ทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น ดอกแดง นำมาแกงเลียงกินเพื่อบำรุงน้ำนม ถ้าไม่มีดอกก็ใช้ใบอ่อนแทนก็ได้ นอกจากนี้แล้วดอกชบา ยังทำให้เป็นหมันได้[/su_quote]
[su_quote cite=”The Description”]รากสดชบา ใช้ประมาณ 1 กำมือ นำมาโขลกให้ละเอียด พอกรักษาพิษฝี และอาการฟกบวม หรือใช้ต้มกับน้ำกิน เพื่อขับน้ำย่อยอาหาร เป็นยาเจริญอาหาร ในรากชบานั้นจะมีสารที่เป็นเมือก (mucilage) อยู่ ใช้ Althea แทนรากได้ จะทำให้ชุ่มชื้น[/su_quote]
[su_quote cite=”The Description”]หญิงชาวจีนใช้กลีบชบามาย้อมผมและคิ้วให้เป็นสีดำ นอกจากนี้ยังใช้น้ำคั้นจากกลีบชบา ดอกชบาผสมกับน้ำมันโอลีฟ (Olive Oil) ในอัตราส่วนที่เท่ากัน แล้วนำไปเคี่ยวให้น้ำระเหยจนหมด ใช้ทาที่ศีรษะเป็นยาบำรุงผม
ทางเชียงใหม่ใช้ดอกชบาเป็นอาหาร และใช้รากชบาต้มเป็นยาขับระดูเสีย ส่วนจีนและญวนใช้เปลือกต้นชบาเป็นยาขับระดู[/su_quote]

Scroll to top