ชื่อสมุนไพร : เครือเขาแกลบ
ชื่ออื่นๆ : รางแดง(กลาง), ก้องแกบ, เขาแกลบ, เห่าดำ, ฮองหนัง, ฮ่องหนัง (เลย), ปลอกแกลบ (บุรีรัมย์), เถามวกเหล็ก, เถาวัลย์เหล็ก (สระบุรี), กะเลียงแดง (ชลบุรี-ศรีราชา), แสงอาทิตย์, แสงพระอาทิตย์, รางแดง (ประจวบคีรีขันธ์), เถาวัลย์เหล็ก, เถามวกเหล็ก, กะเลียงแดง, รางแดงทรงแดง (ภาคใต้), ก้องแกบ, ก้องแกบเครือ, ก้องแกบแดง, เครือก้องแกบ, หนามหัน (ภาคเหนือ), ซอแพะแหล่โม (กะเหรี่ยง), ตะแซทูเหมาะ (กะเหรี่ยงแดง)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ventilago denticulata Willd.
ชื่อวงศ์ : RHAMNACEAE
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
- ต้นเครือเขาแกลบ เป็นไม้เถาเลื้อยเนื้อแข็ง พาดพันตามต้นไม้และกิ่งไม้ เถาเมื่อยังอ่อนจะเป็นรูปทรงกระบอกสีเขียว เมื่อแก่เถาเปลี่ยนเป็นเป็นสีเทา ผิวของลำต้นหรือเถาเป็นรอยแตกระแหงเป็นร่องสีแดงสลับ ทำให้เกิดเป็นลวดลายที่สวยงาม ตามกิ่งอ่อนมีขนสั้น
- ใบเครือเขาแกลบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ยาว รูปไข่แกมขอบขนาน หรือรูปวงรีแกมขอบขนาน ปลายใบแหลม ขอบใบเป็นจักตื้น ใบมีขนาดกว้างประมาณ 4-6 เซนติเมตร และยาวประมาณ 8-14 เซนติเมตร ส่วนก้านใบสั้น
- ดอกเครือเขาแกลบ ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบใกล้กับปลายยอด ดอกย่อยมีจำนวนมาก กลีบดอกเป็นสีเขียวแกมเหลืองหรือสีเขียวอมขาว
- ผลเครือเขาแกลบ ลักษณะผลเป็นผลแห้งไม่แตก ผลมีรูปร่างกลม ด้านปลายผลแผ่เป็นครีบคล้ายปีกแข็ง ภายในมีเมล็ดประมาณ 1-2 เมล็ด
ส่วนที่ใช้เป็นยา : เถา
สรรพคุณ เครือเขาแกลบ :
- เถา บำรุงเอ็น แก้กษัย บำรุงกำลัง บำรุงไต นำมาใช้ต้มกินแก้ปวดเมื่อย แก้เอ็น ทั้งต้มกินเดี่ยวๆ หรือต้มรวมกับสมุนไพรบำรุงกำลังอื่นๆ เช่น เถาวัลย์เปรียง กินเป็นประจำจะช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงเลือด ทำให้เจริญอาหาร ใบนำมาใช้เป็นชาชงแก้ปวดหลังปวดเอว
หมอยาอีสาน ใช้เถานำมาต้มกิน หรือนำใบมาชงเป็นชา เพื่อเป็นยาบำรุงกำลัง แก้เส้น แก้เอ็น อาการปวดหลัง ปวดเอง ปวดแข้ง ปวดขา หรือใช้รากดองเหล้า
ยอดอ่อน ใบ และเปลือกต้น ใช้เป็นส่วนประกอบในการทำน้ำยาสระผมสูตรแก้รังแค ซึ่งจะประกอบไปด้วยสมุนไพรอื่น ๆ อีก เช่น ส้มป่อยหรือมะนาวหรือมะกรูด ใบหมี่เหม็น และน้ำด่าง (น้ำขี้เถ้า) นำมาต้มรวมกันแล้วนำน้ำที่ได้มาสระผมจะช่วยแก้รังแคได้