โกฐกะกลิ้ง

โกฐกะกลิ้ง

โกฐกะกลิ้ง ได้จากเมล็ดของต้นแสลงใจ 

ชื่ออื่น :  แสลงใจ, แสลงทม, แสลงเบื่อ (นครราชสีมา), แสงโทน, แสลงโทน (โคราช), แสงเบื่อ (อุบลราชธานี), กระจี้, กะกลิ้ง, ตูมกาแดง (ภาคกลาง), ดีหมี, ว่านไฟต้น
ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Strychnos nux-vomica L.
ชื่อสามัญ :   Nux-vomica Tree, Snake Wood
วงศ์ :  STRYCHNACEAE

ลักษณะภายนอกของโกฐกะกลิ้ง :

  • เมล็ดโกฐกะกลิ้ง กลมแบนคล้ายกระดุม มี 4-15 เมล็ด ยาว 1.5-2.2 เซนติเมตร หนา 5-15 มิลลิเมตร มักพบด้านหนึ่งนูน อีกด้านหนึ่งเว้า หรือเว้าทั้ง 2 ด้าน ผิวนอกมีขนสีนวลเหลือบสีเทา ปกคลุมหนาแน่นคล้ายกำมะหยี่ ขนมักเอนไปทางเดียวกัน ขอบมักนูนหนาขึ้น ผิวด้านล่างเห็นขั้วเมล็ด คล้ายจุดนูนขึ้น เนื้อในแข็ง สีขาวแกมสีเหลืองอ่อน ไม่มีกลิ่น เมล็ดมีรสเมาเบื่อ ขมจัด เมล็ดมีพิษ ทำให้ตายได้
  • มล็ด มีรสเมาเบื่อขมเล็กน้อย ตัดไข้ตัดพิษกระษัยเจริญอาหาร เมล็ดมี Alkaloid  เรียกว่า Strychnine เป็นยาบำรุงหัวใจให้เต้นแรงและบำรุงประสาทอย่างแรง ยาที่เบื่อสุนัขให้ผงอัลคาลอยด์ของสตริกนิน 1 เกรน เบื่อสุนัขได้ 1 ตัว ก่อนตายมีอาการชักกะตุกจนตาย ภายใน 1-3 ชั่วโมง (**ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตถือเป็นบาป ไม่ควรทำ)

ทุกส่วนของต้นมีพิษ เป็นยาอันตรายมาก ทำให้ถึงตายได้ การนำมาทำเป็นยาต้องฆ่าฤทธิ์ ตามกรรมวิธีในหลักเภสัชกรรมไทยเสียก่อน

สรรพคุณ โกฐกะกลิ้ง:

  • เรียกเมล็ดแก่แห้งของต้นแสลงใจว่า “โกฐกะกลิ้ง” ใช้เป็นยาขมเจริญอาหาร บำรุงหัวใจ ขับน้ำย่อย เมล็ด มีพิษมากต้องระมัดระวังในการใช้ ทางยา เมล็ดมีรสเมาเบื่อขมจัด บำรุงธาตุ บำรุงหัวใจให้เต้นแรง แก้อัมพาต แก้อิดโรย แก้ไข้เจริญอาหาร ขับน้ำย่อย กระตุ้นประสาทส่วนกลาง บำรุงประสาท หูตาจมูก บำรุงเพศของบุรุษ บำรุงกล้ามเนื้อกระเพาะอาหาร ลำไส้ ให้แข็งแรง แก้โรคอันเกิดจากปากคอพิการ ขับพยาธิ ขับปัสสาวะ แก้พิษงู พิษตะขาบแมลงป่อง แก้ลมกระเพื่อมในท้อง แก้คลื่นไส้ แก้ลมพานไส้ แก้ริดสีดวงทวาร แก้โลหิตพิการ ทำให้ตัวเย็น แก้ลมคูถทวาร ขับลมในลำไส้ แก้หนองใน แก้ไตพิการ แก้เส้นตาย แก้เหน็บชา แก้เนื้อชา แก้กระษัย แก้ปวดเมื่อย

ข้อมูลเพิ่มเติม : 

ข้อแนะนำและข้อควรระวัง

สตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทานสมุนไพรชนิดนี้ เพราะมีความอันตรายมากอีกทั้ง ทุกส่วนของแสลงใจ มีพิษ เป็นยาอันตรายมาก ในการนำมาทำเป็นยาต้องฆ่าฤทธิ์ ตามกรรมวิธีในหลักเภสัชกรรมไทย โดยผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน และไม่ควรเตรียมยาเองเพราะหากทำผิดวิธีอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ 

           นอกจานี้ยังมีการศึกษาทางพิษวิทยาในส่วนของเมล็ด และดอก พบว่าหากรับประทานเข้าไปจะทำให้กล้ามเนื้อกระตุก เกร็ง กลืนลำบาก ขาสั่น ชักอย่างแรง หัวใจเต้นแรง ขากรรไกรแข็งและตายได้ ในกรณีไม่ตายพบว่ามีไข้ ตัวชา กล้ามเนื้อเกร็ง หัวใจเต้นเร็ว และเหงื่อออกมากติดต่อกันหลายวัน ซึ่งในขนาดรับประทาน 60-90 มิลลิกรัม ก็สามารถทำให้ตายได้

Scroll to top